กาดกองต้า
กาดกองต้า หรือ ตลาดจีน (กาดกองต้า เป็นคำล้านนา แปลตามตัวคือ
ตลาดถนนท่าน้ำ) เป็นตลาดโบราณ ของคนลำปาง อายุร้อยกว่าปีมาแล้ว
ตั้งอยู่ริมแม่น้ำวัง เริ่มก่อตั้งเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2420 (สมัยรัชกาลที่5)
ความสำคัญในอดีตเป็นท่าเรือขนถ่ายสินค้าทางภาคเหนือและเป็นศูนย์กลางการค้าไม้ซึ่งมีพ่อค้าหลายเชื้อชาติทั้งพม่า
จีน และชาวตะวันตก ชื่อตลาดจีน มาจากพ่อค้าส่วนใหญ่เป็นคนเชื้อสายจีน
ซึ่งบางส่วนเดิมทีได้มาขายแรงงานที่นี้ และได้พัฒนาจนมาเป็นพ่อค้าส่วนใหญ่ของตลาด
เสน่ห์กาดกองต้าถ่ายทอดผ่านทางสถาปัตยกรรมทั้งเรือนแบบไทยภาคกลาง เรือนล้านนา
เรือนพม่า เรือนแบบจีน และเรือนขนมปังขิงแบบฝรั่งเศส ตลาด ถนนคนเดิน
อาคารเก่าในกาดกองต้า
อาคารฟองหลี (สร้างในช่วงปี พ.ศ. ๒๔๓๔ - ๒๔๔๔) เข้มขรึม สุดคลาสสิกกาดก
อาคารสองชั้นตรงหัวมุมถนนตลาดเก่านี้ ยกพื้นสูงจากถนนประมาณ ๑ เมตร กว้าง ๑๖ เมตร ลึกราว ๑๐ เมตร หลังคาจั่วตัดขวางแบบจีน ชั้นบนเป็นห้องนอนพร้อมกับมีระเบียงและชายคาด้านหน้าถูกแต่งเติมเพิ่มเสน่ห์ด้วยไม้สักฉลุลวดลายโปร่ง
เสาไม้รับระเบียงเรียงรายตรงทางเดินด้านล่างเป็นผลมาจากอิทธิพลตะวันตกที่แพร่หลายเข้ามาในสมัยนั้น
บ้านคมสัน (สร้างในปี พ.ศ. ๒๔๖๐) เมื่อตะวันตกพบตะวันออก
ถัดจากอาคารฟองหลีมาไม่ไกล บ้านหลังใหญ่โตสีเหลืองโดดเด่นนั้นคือ บ้านคมสัน ช่วงฤดูหนาว ริมรั้วยาวเหยียดจะสะฟรั่งไปด้วยดอกพวงแสดงามตายิ่งนัก
ผู้เป็นเจ้าของรุ่นแรกคนตลาดจีนรู้จักกันดีในชื่อป๋าน้อย-ย่าลางสาด
คมสัน บ้านคมสันเป็นบ้านปูนหลังแรกในย่านนี้
สร้างขึ้นช่วงเวลาเดียวกับสะพานรัษฎาภิเศก
อาคารเยียนซีไท้ลีกี (สร้างในปี พ.ศ. ๒๔๕๖) ตึกฝรั่ง
หัวใจจีน
จากบ้านของแม่เลี้ยงเต่าเดินไม่ไกลจะถึงอาคารเยียนไท้ลีกีที่สร้างขึ้นในปี
พ.ศ. ๒๔๕๖ โดยนายห้างใหญ่ชาวจีนชื่อนายจิ้นเหยี่ยน (อารีย์ ทิวารี)
ตันตระกูลทิวารี เอเยนต์น้ำมะเน็ด
ลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์สร้างด้วยปูนทั้งหลัง ประดับตกแต่งแบบตะวันตกชนิดเต็มรูปแบบ
หลังคาเป็นปั้นหยา แต่กั้นแบบดาดฟ้า (Paraped) ลวดลายที่ใช้มีทั้งไม้ฉลุและปูนประดับ
โดยด้านบนของอาคารบริเวณตรงกลางมีหน้าจั่วที่บอกถึงปีที่สร้างอาคารนี้ คือ
ค.ศ. ๑๙๑๓ และมีรูปปั้นหนูตามปีเกิดผู้เป็นเจ้าของ และลายสัญลักษณ์ลูกโลกพร้อมทั้งลายใบไม้
ดอกโบตั๋น ลายต้นไผ่ และลายประดิษฐ์รูปโบว์
บ้านแม่แดง
(สร้างราวปี พ.ศ. ๒๔๖๑) อดีตร้านเกากี่ที่รุ่งเรือง
ตรงข้ามกับบ้านทนายความเป็นบ้านแม่แดง
ของนายเกา แซ่แห่ว-แม่แดง พานิชพันธ์ เดิมบ้านหลังนี้คือร้านเกากี่
ขายสรรพสินค้าที่นับว่าทันสมัยมากในสมัยนั้น ทั้งของใช้ในประเทศจากกรุงเทพฯ
และนำเข้าจากต่างประเทศ โดยมีลูกค้าร่ำรวยทุกระดับชั้น
อาคารหม่องโง่ยซิ่น (สร้างราวปี พ.ศ. ๒๔๕๑)
พลิ้วไหวในงานไม้
โดดเด่นที่สุดในแถบนี้ เห็นจะเป็นอาคารที่อยู่ตรงข้ามอาคารกาญจนวงค์นี่เอง
งามกระทั่งศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ อย่าง น. ณ
ปากน้ำ ยกย่องว่าเป็นอาคารขนมปังขิงริมถนนที่งดงามที่สุดในประเทศไทย ทั้งยังได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่น
ประจำปี ๒๕๕๐
อาคารกาญจนวงศ์
(สร้างราวปี พ.ศ. ๒๔๕๑) ขนมปังขิงแสนหวาน
ติดกันกับบ้านอนุรักษ์
คืออาคารขนมปังขิงสองชั้นแบบวางเรือนขวางเช่นเดียวกับอาคารฟองหลี หลังคาจั่วตัดทางขวางซึ่งเป็นการวางผังแบบร้านค้าของชาวจีน
ชื่ออาคารกาญจนวงศ์ อ่อนหวานด้วยลายฉลุอันชดช้อยมองเพลิน เดิมเป็นของบัวผัดกาญจนวงศ์
ชาวพม่า แต่ปัจจุบันเป็นกรรมสิทธิ์ของเรือนระวี ตรีธรรมพินิจ แห่งร้านเตียเฮ่งฮงย่านสบตุ๋ย
ภาพบรรยากาศ
เอกสารอ้างอิง
หนังสือกาดกองต้าย่านเก่าเล่าเรื่องเมืองลำปาง โดย กิติศักดิ์ เฮงษฎีกุล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น